หมู่บ้านประมงน้ำจืด อยู่ที่ ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ตามเส้นทางท่าบ่อ-ศรีเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านที่มีอาชีพทำการประมงน้ำจืด มีการเพาะเลี้ยงปลาน้ำจืดชนิดต่าง ๆ เช่น ปลาตะเพียน ปลาไน ปลานวลจันทร์ ปลายี่สกเทศ ปลาเกล็ดเงิน ปลาหัวโต และปลาดุกเทศ โดยจัดส่งไปจำหน่ายยังกรุงเทพฯ ภาคเหนือ และภาคอีสาน
วัดสว่างอารมณ์ อยู่ในอำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ ตั้งอยู่บริเวณลานหินเนินเขา บรรยากาศร่มรื่นด้วยต้นไม้ มีลำธารเล็กไหลผ่าน เป็นวัดที่มีทิวทัศน์สวยงาม มีอุโบสถเป็นรูประฆังคว่ำ ตั้งอยู่บนก้อนหินใหญ่ เป็นจุดชมทิวทัศน์ความสวยงามของแม่น้ำโขง และที่ใต้ก้อนหินใหญ่เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปไสยาสน์ปางปรินิพพาน มีเรื่องเล่าสืบกันมาว่า ท้าวศรีธน เป็นโอรสของพระเจ้าอาทิตยวงศ์แห่งเมืองปัญจานคร ท้าวศรีธน ออกติดตามหานางมโนราห์ ซึ่งเป็นมเหสี พอมาถึงถ้ำฤาษีกัสสปะ จึงได้หยุดที่นี่เพื่อเรียนวิชาอาคม เผื่อไว้ใช้ในยามจำเป็น พระองค์รำพึง “เรามีความชำนาญแต่ด้านยิงธนู ควรที่จะเรียนวิชาอาคมอื่นเพิ่มเติม” หลังจากเรียนอาคมจบ พระองค์อยากทดลองอาคมของตน จึงเดินไปหลังถ้ำ เลือกก้อนหินเป็นเครื่องมือทดลอง พระองค์ใช้อาคมที่เรียน เสกใส่ดาบ พอท่องมนต์จบ ก็เงื้อดาบฟันบนก้อนหินสามครั้ง ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นทั่วอาณาบริเวณ ผลปรากฏว่า หินก้อนนั้นขาดเป็นสามท่อน ช่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง จากนั้น พระองค์ก็ลาพระฤาษีกัสสปะ เพื่อตามหามเหสีผู้มีค่าเท่าชีวิต จนไปพบที่เมืองภูเงินแห่งเขาไกรราช ต่อมาพระองค์กับมเหสีมโนราห์ได้กลับมาปกครองเมืองปัญจานครต่อจากพระราชบิดา ด้วยความผาสุก จนสิ้นสมัยของพระองค์ ฉากสถานที่ของตำนานท้าวศรีธน ก็คือ ที่ตำบลปากคาด อำเภอปากคาด และตำบลโพนแพง อำเภอรัตนวาปี ซึ่งเป็นเรื่องราวที่แสดงให้เห็นพลังแห่งความรัก แม้จะมีอุปสรรคขวางกั้น ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านจึงเรียกบริเวณถ้ำดังกล่าวว่า “ถ้ำศรีธน” เพราะมีร่องรอยตามตำนานท้าวศรีธนปรากฏอยู่ เมืองเปงจานนคร หรือเมืองปัญจานคร อยู่ห่างจากถ้ำศรีธนประมาณ 10 กิโลเมตร (Cr.เว็บไซต์ thailandtourismdirectory)
วัดอรัญบรรพต พระสุธรรมเจดีย์ ตั้งอยู่ริมถนนสายศรีเชียงใหม่-สังคม ตำบลบ้านหม้อ อำเภอศรีเชียงใหม่ เป็นทั้งพิพิธภัณฑ์และเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ก่อสร้างโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเพื่อถวายหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ เกจิอาจารย์ที่มีศิษยยานุศิษย์มากมาย มีชื่อเสียงด้านวิปัสสนา ปัจจุบันได้มรณภาพแล้วเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2548
น้ำตกวังน้ำมอกอยู่ในเขตพื้นที่ของตำบลพระพุทธบาท อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย โดยหมู่บ้านที่อยู่ใกล้น้ำตกมากที่สุดก็คือหมู่บ้านวังน้ำมอก หมู่บ้านโฮมสเตย์เล็กๆที่ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาที่สวยงาม โดยเป็นน้ำตกที่มีความสูงประมาณ 30 เมตร อยู่ทางทิศเหนือของหมุ่บ้าน เลยเขตเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ออกไปทางอำเภอสังคม ประมาณ 28 กิโลเมตร ก่อนถึงวัดหินหมากเป้ง 20 เมตร จะมีทางแยกซ้ายเข้าสู่หมู่บ้านวังน้ำมอก ระยะทางจากทางแยกเข้าสู่น้ำตกประมาณ 7 กิโลเมตร เดินทางโดยรถยนต์จนถึงตัวน้ำตกได้โดยไม่ต้องเดินเท้า โดยบริเวณน้ำตกมีแนวสันภูเป็นผาหินมีลักษณะแปลกตาสวยงามมาก ธารน้ำไหลระยะทางลดหลั่นกันไป ตอนล่างเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่และลานหิน สามารถลงเล่นน้ำและอาบน้ำได้ ช่วงเวลาที่มีน้ำได้แก่ ช่วงเดือนมิถุนายน-ตุลาคม เป็นช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวที่สุด ประกอบกับผู้คนที่มาท่องเที่ยวสามารถพักค้างคืน (โฮมสเตย์) และเดินเที่ยวป่า รวมทั้งยังร่วม พิธีบายศรีสู่ขวัญ และซุมข้าวแลง (กินข้าวเย็นด้วยกัน) ซึ่งเป็นประเพณีของชาวบ้านวังน้ำมอกในการต้อนรับกับคนแปลกถิ่นที่มาเยือน จึงสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนเป็นอย่างดี อาหารพื้นบ้านที่ท่านจะได้ลิ้มรส อันได้แก่ แกงหน่อไม้ ตำสับปะรด ปลาทอดสมุนไพรกรอบ ฯลฯ ที่มา : https://thailandtourismdirectory.go.th/th/info/attraction/detail/itemid/4072
วัดภูทอก หรือ วัดเจติยาคีรีวิหาร ตั้งอยู่ที่อำเภอศรีวิไล จ.บึงกาฬ จังหวัดที่ 77 ของไทย มีทั้งหมด 7 ชั้นด้วยกัน ต้องเดินเท้าขึ้นสู่ยอดภูทอก ไม่มีกระเช้า จุดเด่นของภูทอกก็คือ สะพานไม้และบันไดขึ้นชมทัศนียภาพรอบ ๆ ภูทอก ใช้เพียงแรงงานคนสร้าง บันไดเวียนไปมา รอบภูทอกแบบ 360 ซึ่งมีทั้งหมด 7 ชั้น ใช้เวลาในการก่อสร้างจากศรัทธาของชาวบ้านราวๆ 5 ปีเต็ม จากชั้น 1-7 จะมีบันไดไม้ให้เดินแบบ ตรงทอดยาวจนถึงจุดสูงสุดของ ยอดภูทอก และตั้งแต่ชั้นที่ 3 เป็นต้นไปนักท่องเที่ยวสามารถเดินชม แบบสะพานเวียน รอบเขาซึ่งจะได้เห็น มุมมองที่แตกต่างไปเรื่อย ๆ
คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ผู้ประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจเป็นอย่างสูง มีความสนใจในความรู้ด้านศิลปะ ศาสนาและปรัชญาต่างๆ อย่างมาก และจากความสนับสนุนของภริยา คุณประไพ วิริยะพันธุ์ ท่านทั้งสองได้ร่วมกันสร้างเมืองโบราณขึ้นมา โดยความตั้งใจที่มุ่งมั่นในประโยชน์ของชนรุ่นหลัง ท่านทั้งสองจึงได้ใช้ประโยชน์จากที่ดินขนาดใหญ่ส่วนตัว สร้างเป็นรูปร่างแผนที่ประเทศไทย จัดให้มีการจำลองโบราณสถาน สำคัญตามจุดต่าง ๆ ในพื้นที่ให้คนได้เที่ยว เเละได้สืบสานต่อไป
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เกิดจากจินตนาการของคุณ เล็ก วิริยะพันธ์ ซึ่งในพิพิธภัณฑ์สามารถแบ่งออกเป็น3 ส่วน คือ ส่วนแรกเป็นจัดแสดงนิทรรศการและโบราณวัตถุจำนวนมาก เช่น เครื่องลายครามของจีน ส่วนที่ 2 จัดแสดงโบราณวัตถุที่มาจากต่างประเทศทั้งทางตะวันตกและตะวันออก และส่วนที่3 จัดแสดงวัตถุมีค่าและเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทยจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางของการวิจัย และพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมี มีส่วนบริการให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไปที่ต้องการ ศึกษาหาความรู้ด้านเทคโนโลยี และงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธโคดม ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหล่อโลหะที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดหน้าตักกว้าง 10 เมตร สูง 26 เมตร ภายในบริเวณวัดมีสิ่งก่อสร้างเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เช่น วังสามฤดูของเจ้าชายสิทธัตถะ สถานที่แสดงปฐมเทศนา ตรัสรู้ และปรินิพพาน เมืองนรก