ฟ้าหลังฝนมักสดใสเสมอ…การได้ไปเห็นท้องทะเลหลังฝนตก ก็ให้ความรู้สึกดีไม่น้อยเช่นกัน ลองคิดดูสิ ตอนฝนตกแล้วมองไปที่ทะเลแทบจะไม่เห็นอะไรเลย ทะเลมีสีขมุกขมัว ท้องฟ้าหม่นหมองพาใจเศร้า แต่พอฝนหยุดตก เหมือนมีม่านเปิดออกมาอีกครั้ง กลายเป็นเห็นท้องฟ้าที่สดใส อากาศบริสุทธิ์ชุ่มฉ่ำ ได้ยินเสียงใสๆ ของนกที่โผบินอยู่เหนือเสียงคลื่นทะเล ทุกอย่างกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง พาให้หัวใจพองโต เป็นความรู้สึกที่แสนวิเศษจริงๆ
แอดมินฯ Line@Dastatravel จึงอยากพาไปเที่ยวทะเลหน้าฝน เพื่อเก็บความทรงจำของท้องฟ้าสีสดใสหลังฝนตกไปด้วยกัน เดินทางไปไม่ไกลก็ถึงทะเล จ.ตราด เป็นจังหวัดที่สุดทางภาคตะวันออกติดกับประเทศกัมพูชา เป็นจังหวัดที่มีอะไรดีๆ ที่ซ่อนความสวยงามไว้มากมาย น่าสนใจใช่ไหมล่ะ ออกเดินทางไปพร้อมกันเลย
เที่ยวหาดทรายสวย ทะเลใส ที่ทะเล จ.ตราด
เที่ยวทะเลหน้าฝน ใครว่าเที่ยวไม่ได้ แถมทะเลหลังฝนก็มีความสวย ชุ่มฉ่ำไปอีกแบบ แต่หน้าฝนแบบนี้คลื่นลมบางวันอาจจะแรงจนออกเรือข้ามไปเที่ยวเกาะต่างๆ ไม่ได้ ก็อยากแนะนำให้มาเที่ยวทะเลที่ชายฝั่ง ซึ่งมีทะเลและหาดทรายที่สวยงามอีกหลายแห่ง แถมมาเที่ยวช่วงหน้าฝนนี้ ไม่ต้องเจอกับผู้คนที่วุ่นวาย เราจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบอย่างแท้จริง ซึ่งที่ จ.ตราด มีทะเลที่หาดทรายสวยหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น…
หาดมุกแก้วและหาดทรายแก้ว หาดมุกแก้วเป็นหาดทรายขาวที่ยาวต่อเนื่องกันตั้งแต่หาดทรายเงินไปจนถึงหาดทรายแก้ว ตลอดชายหาดเรียงรายไปด้วยทิวสนและต้นมะพร้าวยาวขนานไปกับชายหาดที่มีทรายสีขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าสดใส เงียบสงบ สามารถพาครอบครัวมาทำกิจกรรมได้หลากหลาย ไม่ว่าจะขี่จักรยานริมหาด เดินเล่น และเป็นจุดนั่งชมพระอาทิตย์ตกที่สวยไม่แพ้ที่ไหนๆ เลย และยังมีร้านอาหารอร่อยๆ ไว้คอยให้นักท่องเที่ยวไปชิมความสด อร่อย ของอาหารทะเลอีกด้วย เรียกว่าถ้าได้มาแล้วเป็นการพักผ่อนอย่างเต็มที่จริงๆ
หาดมุกแก้ว
ที่มา : http://www.thailovetrip.com/view.php?id_view=340
หาดบานชื่น ตั้งอยู่ที่ ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ มีหาดทรายสีขาวสะอาดทอดยาวมองไปไกลสุดตา บรรยากาศเงียบสงบ นั่งฟังเสียงคลื่น เสียงลมได้อย่างสบายใจ ตลอดแนวชายหาดมีที่พักราคาไม่แพงให้เลือกได้ตามใจชอบ หากได้นั่งมองทะเลมาจากที่พัก เห็นทะเลสีฟ้าสดใส หรือทะเลที่มีฝนพรำโปรยปราย ช่างสุดแสนโรแมนติก ไม่มีอะไรจะสุขใจมากไปกว่านี้แล้ว
หาดบานชื่น
นอกจากนี้ จ.ตราด ยังซ่อนความพิเศษไว้ด้วยการมีหาดทรายที่ไม่เหมือนที่ไหน แอดมินฯ อยากจะชวนไปดูสักครั้งคือ
หาดทรายดำ อยู่ที่บ้านกลาง ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ เป็นหาดที่มีเม็ดทรายสีดำละเอียด เป็นสันทรายที่ทอดยาวกว่า 1 กิโลเมตร สามารถเดินเล่นไปสัมผัสความละเอียดนุ่มของทรายได้ หาดทรายดำจะอยู่ปะปนกับป่าชายเลน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่ามะขาม เป็นป่าสงวน ยังคงมีความสมบูรณ์และมีสัตว์น้อยใหญ่มากมาย และความพิเศษของหาดทรายดำคือ มีเพียง 5 แห่งบนโลกเท่านั้นคือที่ ไต้หวัน มาเลเซีย ฮาวาย ทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย และ จ.ตราด ประเทศไทย ถือเป็นความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างขึ้น และมีอยู่ในเมืองไทยที่เราสามารถไปสัมผัสได้ด้วยตัวเอง
หาดทรายสองสี เป็นพื้นที่ที่กำลังพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ด้วยปรากฏการณ์ธรรมชาติทำให้หาดทรายแห่งนี้เป็นหาดทรายสีขาวกับหาดทรายสีแดงมาเชื่อมบรรจบกันที่บริเวณริมชายหาด ใกล้กับหาดไม้รูด และยังมีบ่อน้ำจืดในทะเล เป็นแหล่งน้ำที่น้ำทะเลท่วมถึงและเกิดเป็นบ่อน้ำขึ้นมา อยู่ที่หลังวัดไม้รูด เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้นและน่าไปดูสักครั้งหนึ่ง
เมื่อมาเที่ยวถึง จ.ตราดทั้งที ได้เที่ยวทะเล ชมหาดทรายสวยๆ เล่นน้ำทะเล ทำกิจกกรรมกลางแดดกันแล้ว ก็ต้องไม่พลาดที่จะฟื้นฟูผิว ด้วยการขัดผิวด้วย “โคลนขาว” และเข้า “สปาสุ่มไก่” กันที่ อ.บ้านช้างทูน
การนำ “โคลนขาว” ที่อยู่ในลำธารของหมู่บ้านมาขัดผิว ซึ่งเป็นลำธารที่มีแร่ธาตุที่สมบูรณ์และชาวบ้านนิยมมาร่อนพลอยกันที่นี่ จึงทำให้โคลนขาวมีเกล็ดอัญมณีแทรกซึมอยู่ในเนื้อโคลน ช่วยในการป้องกันผิวจากแสงแดดเผา และทำให้ผิวเนียนนุ่ม ดูชุ่มชื่นเป็นประกาย
ทั้งยังได้เข้า “สปาสุ่มไก่” ซึ่งมีลักษณะเป็นตู้อบ มีหม้อต้มสมุนไพรตั้งไว้ในสุ่ม เพื่อให้สมุนไพรและความร้อนอบอวลอยู่ในสุ่ม ซึ่งใช้สมุนไพรถึง 32 ชนิดด้วยกัน เป็นสูตรโบราณของบ้านช้างทูนที่ใช้กันมารุ่นสู่รุ่น มีสรรพคุณช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ผิวพรรณผุดผ่อง ใช้เวลาทำเพียง 15 นาทีก็ได้ผิวชุ่มชื่นกลับคืนมา ฉะนั้นหลังจากที่ผิวเผชิญแดดจากทะเลมาแล้วก็มาฟื้นฟูผิวกันที่ศูนย์นิเวศพิพิธภัณฑ์ อ.บ้านช้างทูนกันเลย
สปาสุ่มไก่
ที่มา : http://bit.ly/2lkJGNM
ขัดผิวด้วยโคลนขาว
ที่มา : http://bit.ly/2soZroT
ก่อนกลับ สามารถไปแวะเที่ยว พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เมืองตราดและอนุสาวรีย์ ร.5 กันก่อน เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยภายในจัดแสดงประวัติความเป็นมาของ จ.ตราด เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่เกิดขึ้นในอดีต และยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีของคน จ.ตราด ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังโดดเด่นด้วยเป็นอาคารไม้เก่า เป็นเรือนไม้เสาปูน ยกพื้น ใต้ถุนสูง หลังคาทรงปั้นหยา และมีการบูรณะรักษาให้ตัวบ้านมีความแข็งแรงและอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เสมอ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และรักษาวัฒนธรรมของชาวเมืองตราดให้คงอยู่ต่อไป
ที่มา : http://bit.ly/2soXAjK
การเดินทางไป จ.ตราด
1. การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว
จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข3 (บางนา-ตราด) เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง หมายเลข 344 (ชลบุรี-บ้านบึง-แกลง) เมื่อถึงอำเภอแกลง เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 3 ผ่านจังหวัดจันทบุรีจนถึงจังหวัดตราด รวมระยะทาง 315 กิโลเมตร ก่อนถึงท่าเรือแหลมงอบ จะมีร้านค้าตรงข้ามอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรมีบริการรับฝากรถ คืนละ 50 บาท เป็นเต้นท์อย่างดี
2. รถโดยสารประจำทาง
สามารถขึ้นรถได้ทั้งจากสถานีขนส่งหมอชิต และเอกมัย
บริษัท โชคอนุกูล
บริษัทเชิดชัยทัวร์
บริษัทศุภรัตน์ทัวร์
ข้อมูลอ้างอิง